top of page

โดย มารุต มโนรัตน์

ประเภทประกันที่ร้านนวดและหมอนวดควรมี

 

ทั้งร้านนวดและหมอนวดควรมีประกันที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ กฎหมาย และอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ประกันสำหรับร้านนวด และ ประกันสำหรับหมอนวด

 

1. ประกันที่ร้านนวดควรมี

 

1.1. ประกันความรับผิดชอบทั่วไป (General Liability Insurance)

 

✅ คุ้มครอง:

• กรณีลูกค้าลื่นล้ม หรือได้รับบาดเจ็บในร้าน

• ความเสียหายต่อทรัพย์สินของลูกค้า

• ค่ากฎหมายหากลูกค้าฟ้องร้อง

 

➡️ ทำไมต้องมี?

• คุ้มครองเหตุการณ์ทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นกับลูกค้าในร้าน

• ร้านส่วนใหญ่จำเป็นต้องมีเพื่อเช่าพื้นที่จากเจ้าของอาคาร

 

1.2. ประกันความรับผิดชอบทางวิชาชีพ (Professional Liability Insurance) หรือ Malpractice Insurance

 

✅ คุ้มครอง:

• กรณีลูกค้าอ้างว่าได้รับบาดเจ็บจากการนวด เช่น ฟ้องร้องว่าเกิดอาการปวด หรือได้รับบาดเจ็บจากเทคนิคที่ใช้

• ข้อกล่าวหาว่าหมอนวดกระทำการโดยประมาท

 

➡️ ทำไมต้องมี?

• การนวดเกี่ยวข้องกับร่างกายลูกค้าโดยตรง อาจเกิดอาการบาดเจ็บหรือปัญหาทางกฎหมายได้

• คุ้มครองค่ากฎหมายหากถูกฟ้องร้อง

 

1.3. ประกันทรัพย์สินธุรกิจ (Commercial Property Insurance)

 

✅ คุ้มครอง:

• อุปกรณ์นวด เตียง เครื่องมือ และเฟอร์นิเจอร์ในร้าน

• ความเสียหายจากไฟไหม้ น้ำท่วม การโจรกรรม หรือเหตุสุดวิสัยอื่นๆ

 

➡️ ทำไมต้องมี?

• หากมีอุปกรณ์ราคาแพง ควรทำประกันเพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายสูงในการเปลี่ยนอุปกรณ์

 

1.4. ประกันค่าชดเชยแรงงาน (Workers’ Compensation Insurance) - กรณีมีลูกจ้าง

 

✅ คุ้มครอง:

• ค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยหากหมอนวดได้รับบาดเจ็บขณะทำงาน

• ค่าจ่ายชดเชยรายได้หากหมอนวดไม่สามารถทำงานได้ชั่วคราว

 

➡️ ทำไมต้องมี?

• กฎหมายแคลิฟอร์เนียบังคับ หากร้านจ้างหมอนวดเป็นพนักงาน (Employee)

• คุ้มครองความเสี่ยงจากอุบัติเหตุขณะทำงาน

 

1.5. ประกันภัยไซเบอร์ (Cyber Liability Insurance) - หากเก็บข้อมูลลูกค้าออนไลน์

 

✅ คุ้มครอง:

• ความเสียหายจากการโดนแฮ็ก ข้อมูลลูกค้ารั่วไหล หรือธุรกรรมออนไลน์ถูกโจรกรรม

 

➡️ ทำไมต้องมี?

• ถ้าร้านใช้ระบบจองออนไลน์และเก็บข้อมูลลูกค้า เช่น บัตรเครดิต หรือข้อมูลสุขภาพ ควรมีเพื่อป้องกันความเสี่ยง

 

2. ประกันที่หมอนวดอิสระควรมี

 

หากหมอนวดเป็น ผู้รับจ้างอิสระ (Independent Contractor) ควรมีประกันของตัวเอง เนื่องจากร้านอาจไม่ได้ให้ความคุ้มครอง

 

2.1. ประกันความรับผิดชอบทางวิชาชีพ (Professional Liability Insurance) หรือ Malpractice Insurance

 

✅ คุ้มครอง:

• ความเสียหายที่เกิดจากการนวด เช่น ลูกค้าอ้างว่าได้รับบาดเจ็บ

• ค่ากฎหมายหากถูกฟ้องร้อง

 

➡️ ทำไมต้องมี?

• หมอนวดต้องรับผิดชอบความเสี่ยงเองหากเป็นผู้รับจ้างอิสระ

 

2.2. ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Health & Disability Insurance)

 

✅ คุ้มครอง:

• ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ

• รายได้ชดเชยหากหมอนวดไม่สามารถทำงานได้

 

➡️ ทำไมต้องมี?

• หมอนวดอิสระไม่มีสวัสดิการจากร้าน ควรมีประกันสุขภาพของตัวเอง

 

2.3. ประกันอุปกรณ์ธุรกิจ (Business Equipment Insurance) - หากใช้เครื่องมือนวดเอง

 

✅ คุ้มครอง:

• เตียงนวด อุปกรณ์นวด หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการให้บริการ

 

➡️ ทำไมต้องมี?

• หากหมอนวดต้องนำอุปกรณ์มาเอง ควรมีประกันเพื่อป้องกันการสูญเสีย

 

3. ประกันที่แนะนำเพิ่มเติม (Optional Insurance)

 

ขึ้นอยู่กับขนาดของธุรกิจและความเสี่ยงเพิ่มเติม

Screenshot 2025-02-01 at 4.34.22 PM.png

สรุป

 

สำหรับร้านนวด ควรมี

✅ General Liability Insurance → คุ้มครองอุบัติเหตุในร้าน
✅ Professional Liability Insurance → ป้องกันการฟ้องร้องจากลูกค้า
✅ Workers’ Compensation Insurance → กรณีมีพนักงาน
✅ Property Insurance → คุ้มครองอุปกรณ์และสถานที่

 

สำหรับหมอนวดอิสระ ควรมี

✅ Professional Liability Insurance → ป้องกันการฟ้องร้อง
✅ Health & Disability Insurance → คุ้มครองสุขภาพและรายได้
✅ Business Equipment Insurance → คุ้มครองอุปกรณ์ที่ใช้

 

การเลือกทำประกันที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับร้านนวดและหมอนวด รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด

©2025 by Nuad Thai and Spa Association of America

bottom of page